24 หน่วยงานปลูกป่า 799,910 ต้น เฉลิมพระเกียรติ

“เกษตรฯ ดึง 24 หน่วยงาน ปลูกป่า 799,910 ต้น เฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก”

นายมีศักดิ์  ภักดีคง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวการจัดโครงการปลูกป่าและไม้ยืนต้นสร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวง สืบสานศาสตร์พระราชาและพระราชินี เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการผลิตอย่างยั่งยืน มีเป้าหมายเพื่อร่วมกันบริหารจัดการทรัพยากรอันเป็นสมบัติของชาติเพื่อการผลิตอย่างยั่งยืน ได้มอบหมายให้กรมฝนหลวงและ การบินเกษตร จัดทำโครงการ  ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติการฝนหลวงในการเพิ่มต้นทุนความชื้นสัมพัทธ์ตามธรรมชาติ ทำให้กลุ่มเมฆมีการก่อตัวและพัฒนาเป็นกลุ่มฝนตกลงสู่ในพื้นที่ลุ่มรับน้ำตามธรรมชาติและพื้นที่การเกษตร


ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานโครงการปลูกป่าฯ ในปี 2562 แบ่งออกเป็น 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1.กิจกรรมพิธีเปิดโครงการฯ    ในวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม 2562 ซึ่งมีกิจกรรมการปลูกป่าและไม้ยืนต้นพร้อมทั้งปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ    ณ อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี โดยได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง เป็นประธานในพิธีเปิดและ ร่วมปลูกต้นไม้ พร้อมทั้งร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ

2. กิจกรรมการปลูกป่าและไม้ยืนต้น เป็นกิจกรรมการดำเนินการปลูกป่า ป่าไม้ ป่าเศรษฐกิจ ป่าชุมชน และการปลูกไม้โตเร็วตามหัวไร่ปลายนา ร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน ส่วนราชการ ประชาชนทั่วไป โดยเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม และได้รับการสนับสนุนพันธุ์ไม้ต่างๆ จากหน่วยงานผู้เข้าร่วมโครงการฯ อาทิ มะค่า ยางนา ประดู่ สัก หวาย ขนุน มะม่วง มะขามป้อม มะค่าโมง เป็นต้น
 
โดยในปี 2562 ตั้งเป้าหมายจำนวนต้นไม้ที่จะปลูก จำนวน 799,910 ต้น จากความร่วมมือกับหน่วยงานร่วมบูรณาการทั้งหมด 24 หน่วยงาน สำหรับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะดำเนินการในช่วงเดือนพฤษภาคม – กันยายน 2562 ในพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 5 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ บริเวณ อ.ฮอด อ.อมก๋อย  จ.เชียงใหม่ ภาคกลาง บริเวณ อ.หนองบัว อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ อ.พิมายจ.นครราชสีมา ภาคตะวันออก บริเวณ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี และภาคใต้ บริเวณ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์


3. กิจกรรมการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ เป็นกิจกรรมโดยความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึงภาคประชาชนทั่วไป ซึ่งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการควบคู่ไปกับการปฏิบัติการฝนหลวงในแต่ละวัน โดยเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมในการกำหนดการเตรียมเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อโปรยทางอากาศ แบ่งการดำเนินการเป็น 3 ระยะ คือ 1) การจัดหาเมล็ดพันธุ์พืชและเตรียมอุปกรณ์ 2) การปฏิบัติการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ 5 ภูมิภาค ภายหลังเสร็จสิ้นจากการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวัน
 
โดยในปี 2562 จะใช้เมล็ดพันธุ์ 11 ชนิด จำนวน 1,080 กิโลกรัม ประกอบด้วย สัก (600 กก.) สมอไทย (80 กก.) สาธร (2 กก.) ไผ่ป่า (2 กก.) ประดู่ป่า (150 กก.) สมอพิเภก (150 กก.) สีเสียดแก่น (5 กก.) มะขามป้อม (1 กก.) มะค่าแต้ (5 กก.) มะค่าโมง (80 กก.) ไม้แดง (5 กก.) พื้นที่ดำเนินการบริเวณ อุทยานแห่งชาติศรีลานนา จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา อุทยานแห่งชาติตาพระยา จ.สระแก้ว และอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และ 3) การติดตามและประเมินผลและติดตามโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืช โดยรวบรวมข้อมูล ชนิด จำนวน พื้นที่บริเวณโปรย    เมล็ดพันธุ์พืช ช่วงเวลาการเจริญเติบโตเมล็ดพันธุ์พืช แนวระยะเส้นทางการโปรยเมล็ดพันธุ์พืช มาทำการประเมินผล รวมถึงการติดตามผลการปฏิบัติการด้วย




ความคิดเห็น