ผุด 4 แนวจัดการศึกษาโฉมใหม่

มข.เผย  4 แนวทางการจัดการศึกษาโฉมใหม่อิสระการเรียนรู้บูรณาการระหว่างคณะ

ศ.ดร.สุรศักดิ์ วงศ์รัตนชีวิน รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น  เผยแนวคิดสู่การพลิกหน้าการจัดการศึกษาครั้งใหญ่ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใต้นโยบาย  Education Transformation   ว่า  ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤติการศึกษา ซึ่งเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก โครงสร้างประชากร และ เทคโนโลยีดิจิตอลมีส่วนอย่างยิ่งในการเปลี่ยนวิถีชีวิต มุมมอง  ค่านิยม ของผู้คนทั่วไป  เพราะฉะนั้นการศึกษาที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม จำเป็นต้องเปลี่ยนด้วยเช่นกัน
       
“ถ้ามหาวิทยาลัยไม่ปรับเปลี่ยน  คนจะไม่มามหาวิทยาลัย  ก็ไม่จำเป็นต้องมีมหาวิทยาลัย   แม้ว่าปัจจุบันความสำคัญของปริญญาบัตรยังมีอยู่  แต่ในอนาคตอันใกล้ บริษัทที่รับสมัครงาน  อาจจะไม่ต้องการปริญญา  ถ้าคุณเก่งเรื่องที่บริษัทต้องการอาจจะรับคุณทันที  คุณจบวิศวะคุณอาจจะเป็นผู้จัดการใหญ่ธนาคารก็ได้


เพราะฉะนั้นความสำคัญของมหาวิทยาลัยยังมีอยู่ แต่ต้องวางบทบาทหน้าที่ให้ถูกต้อง โดยเปลี่ยนให้นักศึกษาที่มามหาวิทยาลัยได้คุณค่าได้ประโยชน์มากกว่าปริญญา สภามหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงให้นโยบายมาว่า ต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  ซึ่งท่านอธิการบดีตั้งว่าเป็นการ Transformation  ในแง่การศึกษาหรือ  Education Transformationเพราะฉะนั้นสิ่งที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะดำเนินการในปี   2562 คือ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอน   ระเบียบต่างๆเพื่อให้สอดคล้อง  ยืดหยุ่น กับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

ศ.ดร.สุรศักดิ์  กล่าวด้วยว่า นโยบาย Education Transformation จะดำเนินการใน  4 ด้านหลักคือ    1.การเปลี่ยน  Teaching Paradigm เป็น Learning Paradigm  จากเดิมที่อาจารย์เน้นการสอนมาเป็นเน้นการเรียน เพื่อให้บัณฑิตตอบโจทย์ผู้ใช้บริการและเป็นกระบวนการสร้างความคิดให้แก่ผู้เรียน ทั้งนี้ อาจารย์ผู้สอนต้องตั้ง mindset ใหม่  วิธีการสอนจะต้องเปลี่ยน เช่น  ในอดีตอาจารย์ lecture 2 ชั่วโมงเต็ม


แต่การเรียนรู้แบบใหม่  อาจารย์ต้องทำระบบให้นักศึกษาเรียนรู้  แนะนำไม่ให้ออกนอกแนวทาง อาจจะให้นักศึกษาค้นคว้าไปก่อนด้วยตนเองเมื่อไม่เข้าใจ  สามารถมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้สอนในชม.เรียน  เช่น ในเรื่องธุรกิจ  อาจจะนำตัวอย่างการจัดการบัญชีมาดู และ วิจารณ์แทนที่จะนั่งฟังอย่างเดียว ซึ่งการเรียนลักษณะนี้จะสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง  เพราะฉะนั้นสิ่งที่ฝ่ายการศึกษาต้องทำคือนำความรู้ลักษณะนี้มาถ่ายทอดให้อาจารย์ได้ทราบ

นอกจากนี้ ได้จัดโครงการนำผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศและต่างประเทศมาบรรยายเป็นประจำ  เพื่อให้อาจารย์เห็นความสำคัญที่ต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งเราหวังว่าอาจารย์ที่ปรับเปลี่ยนแนวคิด และ วิธีการถ่ายทอดความรู้จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เป็นแรงจูงใจให้อาจารย์ท่านอื่นๆเห็นและทำตาม


2.Lifelong learning  การเรียนรู้ตลอดชีวิตจัดการศึกษารูปแบบใหม่ที่ทุกช่วงวัยสามารถมาศึกษาความรู้ได้  มีหลักสูตรที่เป็น หลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-degree) มากเพิ่มขึ้น  ซึ่งสามารถเรียนออนไลน์ หรือ interactive ก็ได้  โดยไม่จำเป็นต้องมามหาวิทยาลัย เน้นความสนใจเป็นหลัก สามารถเรียนซ้ำเพื่อให้ได้เกรดที่สูงขึ้นได้  โดยอายุไม่ใช่เงื่อนไข แม้ว่าจะอยู่ ป.6 ก็สามารถเรียนวิชาปริญญาเอกได้ หากเรียนไหว  แต่ไม่ได้รับปริญญา  แต่จะได้รับก็ต่อเมื่อจบ ตรี โท ตามลำดับก่อน 

วิชาที่เรียนสามารถเก็บสะสม  เครดิตแบงค์ ไปเรื่อยๆ  โดยคณะจะเป็นผู้ประกาศว่า  วิชานี้เก็บได้ กี่ปี  ทั้งนี้สภามหาวิทยาลัยจะเป็นผู้วางแนวระยะเวลาสูงสุดไว้  รายวิชาเล็ก  ใหญ่ สามารถ ทำ หน่วยกิตสะสมได้ทั้งหมด  เมื่อครบตามเกณฑ์ สกอ. จะสามารถยื่นรับปริญญาได้  เพราะฉะนั้นต่อไปนักศึกษาอาจจะเรียนปริญญาตรี 1 ปี


ขณะเดียวกันนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นในปัจจุบันอาจจะทำลักษณะนี้ได้  ยกตัวอย่าง นักศึกษาเกษตรศาสตร์  ต้องการปริญญา MBA ช่วงว่างขณะเรียนปริญญาตรี สามารถเรียนบางวิชาของ MBA  เก็บไว้  เมื่อจบปริญญาตรีเกษตรศาสตร์ อาจจะเหลืออีกนิดเดียว  ก็ขอรับปริญญา MBA ได้เช่นกัน

ทั้งนี้ช่วงแรกจะเปิดหลักสูตรที่ไม่มีสภาวิชาชีพกำกับ  เช่น บริหารธุรกิจ  บัญชี การธนาคาร  ลำดับต่อมาจึงจะเปิด สาขาวิชาที่มีสภาวิชาชีพกำกับ  เช่น แพทย์ พยาบาล  ทันตแพทย์  วิศวกรรม  แต่ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยต้อง ปฏิบัติตามให้สอดคล้องกับแนวทางของสภาวิชาชีพ ซึ่งวิชาดังกล่าว ไม่สามารถที่จะเรียนสั้นได้เพราะต้องใช้เวลาในการเรียนปฏิบัติด้วย 


3.Innovative Integration  การนำองค์ความรู้ระหว่างคณะมาบูรณาการร่วมกันเพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน  ซึ่งหลักสูตรที่ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด หางานทำยาก  จะถูกยกเลิก  หรือควบรวม และหลักสูตรดังกล่าวจะอยู่ภายใต้มหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยตรง 

ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการทำงานในแต่ละคณะ  เพื่อระดมความคิดบูรณาการ เป็นหลักสูตรใหม่สังคมต้องการร่วมกัน  เช่น รัฐบาลประกาศไทยแลนด์ 4.0 ต้องการบัณฑิตที่เรียนด้านระบบรางเป็นจำนวนมาก  คณะวิศวกรรมศาสตร์ก็จำเป็นต้องมีหลักสูตรด้าน  logistics  มากขึ้น  หรือกิจการ  smart farming เป็นศาสตร์ที่จะต้องใช้ความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์  และ  เกษตรศาสตร์  เราต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญในคณะดังกล่าวมาทำงานร่วมกัน  ผลักดันเป็นหลักสูตรที่ไม่ได้มีคณะใดคณะหนึ่งเป็นเจ้าของ


4.การทำระบบให้สนับสนุนการทำงาน  เช่น เมื่อเปลี่ยนการเรียนการสอนใหม่ มหาวิทยาลัยมีแนวคิดที่จะปรับระบบทุกอย่างให้สอดคล้อง เช่น  การประเมินอาจารย์ การขึ้นตำแหน่งเชิงวิชาการ  การขึ้นเงินเดือน  การไปดูงานต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้สอนที่ปรับเปลี่ยนเห็นว่าได้ประโยชน์  ขณะเดียวกันระบบเทคโนโลยีต้องทันสมัยสนับสนุนการทำงานด้วย 

โดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องเปลี่ยนวิธีการประเมิน หากการทำงานเป็นระบบที่สอดคล้องกันเช่นนี้  ย่อมมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ  ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ ทุกฝ่าย ทั้งบุคลากร คณาจารย์ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ต้องเข้าใจ พร้อมที่จะเปลี่ยน  เพราะการประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพียงแค่การดำรงอยู่ในฐานะสถาบันทางการศึกษาเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าภาคภูมิใจมากกว่า คือเรามีคุณค่าต่อสังคม  เป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนสังคมต่อไป







ความคิดเห็น