วิกฤติแล้งยาวลดระบายน้ำภูมิพล-สิริกิติ์

กรมชลฯลดระบายน้ำเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ เหลือ39-18 ล้านลบ.ม.จนสิ้นสุดฤดูฝน ต.ค.นี้ คาดฝนน้อยเทียบปี58 ได้น้ำใช้การ4เขื่อนหลัก 4พันกว่าล้านลบ.ม.จ่อวิกฤติแล้งลากยาวถึง 63 

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าจากการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามสถานการณ์น้ำ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สนทช.)ให้ปรับแผนจัดสรรน้ำใหม่ ให้น้ำคงเหลือไว้ในเขื่อน 300ล้านลบ.ม.จึงปรับแผนจัดสรรน้ำฤดูฝน ถึงสิ้นสุดเดือนต.ค.

ซึ่งในขณะนี้ได้ปรับระบายน้ำลดลงจากเขื่อนภูมิพล ระบายวันละ 25 ล้านลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ 20ล้านลบ.ม.รวม45ล้านลบ.ม.ปรับเหลือ 39 ล้านลบ.ม.และมีฝนมาปรับเหลือ18ล้านลบ.ม.จนสิ้นฤดูฝนวันที่ 31ต.ค. ซึ่งจากการปรับแผนใหม่ ทำให้จากเดิมจัดสรรน้ำ 2.06พันล้านลบ.ม. เหลือ 1.7พันล้านลบ.ม.


อย่างไรก็ตามสถานการณ์ฝนเริ่มตกลงมาในหลายพื้นที่ และจากคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ต้นเดือนส.ค.ถึงปลายเดือนก.ย.ฝนจะตกใกล้เคียงค่าเฉลี่ย ซึ่งจะช่วยนาข้าวในลุ่มเจ้าพระยา ฟื้นตัวได้ พร้อมกับส่งน้ำเป็นรอบเวรอย่างเคร่งครัด และกำหนดรอบเวรสูบน้ำของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า


โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สูบน้ำจากแม่น้ำสายหลักอย่างเหมาะสม ทั้งนี้หากทุกภาคส่วนรักษากติกาการรับน้ำและใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มั่นใจว่า จากนี้ไปจนถึงต้นฤดูฝนปี 2563 น้ำจะมีพอใช้


อธิบดีกรมชลฯ กล่าวว่า ได้ประเมินสถานการณ์ฝนและปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน เทียบเคียงปี58 โดยจะมีน้ำใช้การ 4.9 พันล้านลบ.ม.เมื่อสิ้นฤดูฝนเดือนต.ค.และฤดูแล้งที่จะถึงนี้ช่วงวันที่ 1 พ.ย.62 พร้อมกับสำรองน้ำไว้สำหรับต้นฤดูฝนเดือน พ.ค.มิ.ย. ก.ค.63 รวม9 เดือน จะปล่อยระบายน้ำเขื่อน4เขื่อนลุ่มเจ้าพระยา 18 ล้านลบ.ม.ต่อวัน สำหรับอุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ


โดยไม่รวมน้ำทำการเกษตร จะใช้น้ำประมาณ 5.4 พันล้านลบ.ม. ยังขาดน้ำอยู่ 136 ล้านลบ.ม.ดังนั้นจึงต้องกันน้ำไว้300ล้านลบ.ม.บริหารจัดสรรน้ำตามแผนใหม่อย่างเคร่งครัด และต้องวางแผนให้เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อย


ทั้งนี้มีรายงานจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการน้ำฯตัวแทนกรมอุตุนิยมวิทยา ยังระบุว่าในช่วงเดือนส.ค.และก.ย.โอกาสจะมีพายุเข้าไทยอาจน้อยลง เพราะแนวพายุขึ้นไปทางเหนือ ลมตะวันเฉียงใต้มีกำลังแรง ไปทางโซนมหาสมุทรแปฟิซิก หากไม่มีพายุสถานการณ์น้ำค่อนข้างวิกฤติมาก เพราะใช้น้ำเขื่อนลากยาวไปอีก9เดือน อาจจะแล้งรุนแรงกว่าปี58 ที่เคยแล้งรุนแรงที่สุดของประเทศไทย




ความคิดเห็น