เครือข่ายศพก.-แปลงใหญ่ระดับเขตร่วมถกเน้นผลิตตาม GAP สะดวกต่อการส่งออก

นายมงคล จอมพันธ์  ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า ทางสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี ได้จัดประชุมเชื่อมโยงการดำเนินงานของคณะกรรมการเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และแปลงใหญ่ระดับเขต


โดยมีคณะกรรมการเครือข่าย ศพก. และ แปลงใหญ่ ระดับเขต และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงาน ศพก. และแปลงใหญ่ ระดับจังหวัดทั้ง 8 จังหวัดภาคตะวันตก เจ้าหน้าที่ สสก. 2 รบ. เข้าร่วมการประชุม     โดยการประชุมมีการแลกเปลี่ยนการดำเนินงาน ศพก. และแปลงใหญ่ในแต่ละจังหวัด ตลอดถึงแนวทางการจัดชั้นคุณภาพแปลงใหญ่ การประกวดแปลงใหญ่ การคัดเลือกคณะกรรมการ ศพก. และแปลงใหญ่ชุดต่อไป รวมทั้งติดตามสถานการณ์ศัตรูพืชที่สำคัญโดยมี นายสมคิด เฉลิมเกียรติ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดสุพรรณบุรี มาให้ความรู้


ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการนำงบประมาณจากเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  มาดำเนินการในกิจการของการทำเกษตรทั้งในพื้นที่ ศพก. และ เกษตรแปลงใหญ่

ซึ่งเป็นไปตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขานรับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยไป
สู่ยุค Thailand 4.0 ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ก่อให้เกิดการเพิ่มมูลค่า และการเพิ่มผลผลิต โดยอาศัยเทคโนโลยีวิทยาการสมัยใหม่และความคิดสร้างสรรค์ เป็นเป้าหมายสำคัญเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น ด้วยการส่งเสริมการนำแนวคิดเกษตรอัจฉริยะมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตและปรับรูปแบบการทำเกษตรให้เกิดเป็นรูปธรรม


ตลอดจนแนวโน้มการทำเกษตรกรรมของโลกที่กำลังปรับเปลี่ยนไปจากการเกษตรดั้งเดิม มีการพัฒนาไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ และการเกษตรอัจฉริยะสูงขึ้น รวมทั้งภาคการเกษตรของประเทศไทยในอนาคต ที่กำลังเผชิญสภาวะการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตร

กรมส่งเสริมการเกษตรจึงเล็งเห็นความสำคัญของทิศทางของการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาการเกษตรในปัจจุบัน สู่การเกษตรอัจฉริยะ มุ่งสู่เกษตรสมัยใหม่ เกษตรแม่นยำ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนกระบวนการผลิตทางการเกษตร สอดคล้องกับการพัฒนาที่มุ่งสู่เกษตร 4.0 เพื่อทำให้อาชีพเกษตรเป็นอาชีพที่มีความมั่นคง ยั่งยืน สร้างรายได้ที่ดี และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับเกษตรแปลงใหญ่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี  ส่วนใหญ่จะเป็นพืชสวนและนาข้าว โดยในที่ประชุมได้มีการเน้นย้ำถึงแนวทางในการนำงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมาดำเนินการให้ก่อเกิดผลอย่างคุ้มค่าตามเป้าหมาย 


การส่งเสริมให้เกษตรแปลงใหญ่ทำการผลิตแบบอัจฉริยะนั้น จะสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาปฏิบัติใช้ในการทำการเพาะปลูก เช่น ระบบน้ำที่ใช้กลไกเข้ามากำหนด มีการวัดอุณหภูมิความชื้นในดินมาเป็นตัวกำหนดระบบการให้น้ำ เพื่อช่วยประหยัดน้ำ และเวลาให้กับเกษตรกร ตลอดถึงการนำเครื่องจักรกลมาเป็นตัวช่วยเพื่อลดปัญหาแรงงานที่ขาดแคลน 

สำหรับพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี นั้น ได้เน้นย้ำกับเกษตรกร ในการผลิตที่จะต้องได้มาตรฐานของ GAP และไม่มีการนำผลผลิตนอกแปลงที่ขึ้นทะเบียนเข้ามาสวมสิทธิเพื่อการส่งออก เพราะหากมีปัญหาผลกระทบจะเกิดกับเกษตรกรเองในที่สุด ซึ่งมาตรการนี้นับว่าเป็นผลดีต่อระบบการผลิตภาคการเกษตรของไทยในระยะยาว


สำหรับสถานการณ์ด้านการผลิตและการตลาดล่าสุดของพื้นที่ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี เผยว่ามะพร้าวน้ำหอมจะเป็นพืชที่เกษตรกรให้ความสนใจผลิตกันมากเนื่องจากให้ผลผลิต และส่งจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี โดยตลาดส่วนใหญ่จะอยู่ในต่างประเทศ และมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง และเกษตรกรที่ปลูกพืชชนิดอื่น เช่น กล้วยไม้ตัดดอกที่กำลังประสบปัญหาเรื่องตลาดเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด - 19 มีการปิดประเทศการส่งออกจึงหยุดชะงัก เกษตรกรจึงหันมาปรับเปลี่ยนเป็นการปลูกมะพร้าวน้ำหอมแทน


“ที่จังหวัดเพชรบุรีขณะนี้ มีการเพิ่มพื้นที่ปลูกมะพร้าวน้ำหอมกว่า 500 ไร่ ซึ่งทาง สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลให้ความรู้ในการเพาะปลูกให้เป็นไปตามหลักวิชาการ การเกษตรที่ถูกต้องเพื่อให้ผลผลิตออกมาดีตรงตามความต้องการของตลาด และไม่มีปัญหากับการส่งออก คือ การผลิตตามมาตรฐาน GAP” นายมงคล กล่าว  





ความคิดเห็น