"ไทย-จีน-ลาว"ผนึกกำลังจัดการน้ำโขงหน้าฝน

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ครั้งที่ 1/2564 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ว่า ปัจจุบันแม่น้ำโขงมีสภาวะผันผวนจากหลายปัจจัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมฝั่งโขง

จากการคาดการณ์โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พบว่า ปริมาณน้ำช่วงเดือน เม.ย. – พ.ค. 64 ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างฤดูแล้งกับฤดูฝน อาจเกิดการผันผวนของปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงอีกครั้ง เนื่องจากปริมาณฝนในปีนี้จะมีมากและมาเร็วในช่วงต้นฤดูฝน

ที่ประชุมจึงได้มีมติเห็นชอบให้ สทนช. และกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการประสานกับสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำจากแม่น้ำล้านช้างสู่แม่น้ำโขง พร้อมเร่งรัดให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการระหว่างไทยและ สปป.ลาว ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ที่ประชุมวันนี้ ยังได้ติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศแม่น้ำโขงต่อวิถีชีวิตของประชาชนในลุ่มแม่น้ำโขง 7 จังหวัด จากการหารือระหว่างสมาคมเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน (คสข.) กับผู้แทนส่วนราชการ เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง 7 ข้อ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 64 ที่ผ่านมา


 


 
ได้มอบหมายให้ สทนช. ดำเนินการศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นในลำน้ำโขงอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ร่วมกับภาคประชาชนและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนป้องกันและบรรเทาผลกระทบ เสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ให้ความเห็นชอบ และมีมติให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการทำกิจกรรมดังกล่าวต่อไปด้วย

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การประชุมในวันนี้ยังได้มีการพิจารณาสถานะกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าภายใต้ระเบียบปฏิบัติ คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เรื่อง การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง (PNPCA) โครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสานะคาม สปป.ลาว


 


 
รวมถึงการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ ในส่วนของแผนพัฒนาเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขง ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบให้มีการศึกษาร่วมกัน (Joint Study) เพื่อกำหนดพื้นที่รับประโยชน์ให้ชัดเจน โดยโครงการที่เสนอจะต้องไม่ซ้อนทับกับพื้นที่รับประโยชน์ของโครงการในประเทศ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยเร่งผลักดันการศึกษาร่วมที่จะเกิดขึ้น

การแก้ปัญหาเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์แม่น้ำโขงและการดูแลประชาชน รวมทั้งการติดตามเรื่องเขื่อนในแม่น้ำโขง เป็นประเด็นที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง

สทนช. จะนำข้อมติของการประชุมในวันนี้ไปเร่งดำเนินการให้เกิดรูปธรรมอย่างชัดเจน และด้วยปีนี้เป็นปีที่ประเทศไทยได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ปี 2564 จึงจะมีการผลักดันอย่างเต็มที่ในประเด็นท้าทายที่ต้องสานต่อและดำเนินการร่วมกันอาทิ การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการรุกล้ำของน้ำเค็ม การต่อสู้กับปัญหาด้านอุทกภัยและภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ปีนี้ยังถือเป็นปีสำคัญที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะมนตรี ครั้งที่ 28 และการประชุมปรึกษาหารือร่วมกับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา ครั้งที่ 26 คาดว่าจะสามารถจัดการประชุมได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 รวมถึงต้องมีการเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 4 คาดว่าจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน 2565 อีกด้วย 










ความคิดเห็น