"ชลประทาน"เพิ่มศักยภาพระบายน้ำสมุทรปราการ

อธิบดีกรมชลประทาน และดร.ทวีศักดิ์.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู ร่วมกับดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. ไปติดตามแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เดินหน้าวางแผนเพิ่มศักยภาพระบบระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น  

 

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากมีฝนตกหนักวัดปริมาณฝนได้มากกว่า 200 มิลลิเมตร ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุน และเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในนิคมอุตสาหกรรมกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งกรมชลประทาน ได้เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยใช้สถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร และสถานีสูบน้ำแนวคลองชายทะเล 9 จุด ระบายน้ำออกสู่ทะเลได้รวมกันไม่น้อยกว่า 20  ล้าน ลบ.ม./วัน  พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง เร่งระบายน้ำให้เร็วขึ้น ทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว 

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ฝนที่จะตกลงมาอีกในช่วงเดือนกันยายนนี้ ตามนโยบายของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ 

สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหา กรมชลประทานได้วางแผนระยะเร่งด่วนปี   2564-2565 ด้วยการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบน้ำ 3 รายการ จัดหาเครื่องสูบน้ำทดแทน  15 รายการ ในระยะกลาง ปี 2566 จะปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบควบคุมเครื่องสูบน้ำ และปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบโทรมาตร  ส่วนระยะยาว ในปี 2567-2570 จะดำเนินการปรับปรุงประตูระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำ  5 รายการ ปรับปรุงคลอง 7 รายการ รวมทั้งก่อสร้างประตูระบายน้ำอีก 2 โครงการ หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการได้อย่างมีประสิทธิภาพ