นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดเหตุอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ ส่งผลให้มวลน้ำขนาดใหญ่ไหลทะลักผ่านลำน้ำชี ทำให้ปลาในกระชังน็อกน้ำตายเป็นจำนวนมาก สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากผลกระทบที่เกิดขึ้นกรมประมงยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมออกพื้นที่ให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้สำนักงานประมงจังหวัดมหาสารคาม ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมหาสารคาม ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทำประมงน้ำจืดกาฬสินธุ์ (เขื่อนลำปาว) ประสานความร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม ในการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรโดยจัดเรือลำเลียงปลาที่สามารถจำหน่ายได้ และปลาที่เน่าเสียขึ้นฝั่ง
รวมทั้งหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว ซึ่งปัจจุบันสามารถสรุปยอดความเสียหายได้รวมมูลค่ากว่า 18 ล้านบาท มีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 42 ราย กระชังที่ได้รับความเสียหาย 972 กระชัง ปริมาณผลผลิตปลานิลที่เสียหายประมาณ 300 ตัน ซึ่งทางสำนักงานประมงจังหวัดมหาสารคามได้มีการสำรวจข้อมูลด้านการเลี้ยงปลานิลของเกษตรกรในพื้นที่
ทั้งนี้พบว่า มีการเลี้ยงใน 2 รูปแบบ ได้แก่ 1. การเลี้ยงแบบทำสัญญากับฟาร์มเอกชน โดยเกษตรกรจะต้องซื้อลูกพันธุ์และอาหารปลาจากฟาร์มเอกชน เมื่อผลผลิตได้ตามขนาดที่ตลาดต้องการ ฟาร์มเอกชนจะรับซื้อคืน ตามราคาของตลาดและฟาร์มเอกชนจะให้ราคาเพิ่มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 2 บาท ซึ่งมีเกษตรกรทำการเลี้ยงลักษณะเช่นนี้ จำนวนถึง 30 ราย และ 2. เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงอิสระ โดยเป็นการเลี้ยงแบบจัดซื้อลูกพันธุ์และอาหารปลา รวมถึงจัดหาตลาดด้วยตนเอง
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 กรมประมงได้มอบหมายให้นายสมพร รุ่งกำเนิดวงศ์ ประมงจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับเกษตรและสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม และตัวแทนฟาร์มเอกชน จำนวน 3 ราย ที่ทำสัญญากับผู้เลี้ยงปลาในกระชังลำน้ำชี จัดประชุมหารือกับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ โดยมีการได้ชี้แจงแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ
โดยเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ทบ.1) กับกรมประมง สามารถขอรับความช่วยเหลือผ่านหน่วยงานกรมประมงภายในจังหวัด ซึ่งจะได้รับพิจารณาดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยใช้เงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564
นอกจากนี้ ยังมีการให้ความรู้ในเรื่องเกษตรพันธะสัญญา ตลอดจนได้มีการหารือถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากฟาร์มเอกชนที่ทำสัญญากับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลา ตัวแทนฟาร์มเอกชนยินดีจะให้ความช่วยเหลือปัจจัยการผลิตด้านอาหารโดยจะให้เครดิตค่าอาหารปลาตลอดการเลี้ยงในรอบต่อไป และหลังสถานการณ์น้ำเข้าสู่สภาวะปกติ
กรมประมงมอบหมายให้สำนักงานประมงจังหวัดมหาสารคามเร่งดำเนินการสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือและชดเชยเยียวยาเกษตรกร ตามระเบียบของกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 และหลักเกณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น