ระงับส่งออกส้มโอสวมสิทธิ์ใบรับรอง GAP

"มนัญญา"สั่ง ตรวจสอบเข้มผลไม้สวมสิทธิ์ใบรับรอง GAP เตรียมส่งออกจีน มอบกรมวิชาการเกษตรลุยตรวจผลผลิต โป๊ะแตกพบล้งส้มโอจ.พิจิตรแจ้งส่งออก 22.15 ตัน  ตรวจสอบผลผลิตมาจากแปลง GAP แค่ 1.30 ตัน  ระงับส่งออกทันที

นางสาวมนัญญา  ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า   ช่วงฤดูกาลผลไม้ที่ผลผลิตกำลังออกขณะนี้ได้กำชับให้กรมวิชาการเกษตรเข้มงวดตรวจสอบและเฝ้าระวังปัญหาการนำผลไม้มาสวมสิทธิ์เป็นผลไม้ไทยและสวมใบรับรอง GAP เพื่อส่งออกไปประเทศที่ 3 เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในประเทศและอาจทำให้มีแมลงศัตรูพืชกักกันที่ไม่เคยมีในประเทศติดเข้ามาแพร่ระบาดภายในประเทศ  



ทั้งนี้จากมาตรการเข้มงวดดังกล่าวล่าสุดได้รับรายงานจากกรมวิชาการเกษตร ว่า ได้ระงับการส่งออกส้มโอที่โรงงานคัดบรรจุแห่งหนึ่ง ที่ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร เนื่องจากนำส้มโอจำนวนหนึ่งมาสวมสิทธิ์ใบรับรอง GAP เตรียมส่งออกไปจีนและสั่งให้ระงับการส่งออกทันทีแล้วพร้อมทั้งสั่งให้มีให้กรมวิชาการเกษตรเข้มงวดตรวจสอบผลผลิตส้มโอที่จะส่งออกเพิ่มเติมในพื้นที่อื่นๆโดยเฉพาะการตรวจสอบปริมาณผลผลิตที่ขออนุญาตส่งออกว่าสัมพันธ์กับพื้นที่แปลงGAP หรือไม่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาส่งออกระยะยาว ต่อไป

นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  ได้มอบหมายให้สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2  จ.พิษณุโลก (สวพ.2) ซึ่งเป็นหน่วยงานในส่วนภูมิภาคของกรมวิชาการเกษตร ดำเนินการตรวจโรงคัดบรรจุส้มโอในพื้นที่จังหวัดพิจิตรเพื่อตรวจสอบปริมาณผลผลิตที่ทำการส่งออกป้องกันการนำผลผลิตที่ไม่ผ่านการรับรองแหล่งผลิต GAP มาสวมสิทธิ์ รวมทั้งป้องกันการลักลอบนำเข้าส้มโอจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์เป็นส้มโอไทยแล้วส่งออกไปประเทศจีน  



ได้รับรายงานจากนางสาวฉันทนา คงนคร ผอ.สวพ 2 ว่า จากการลงพื้นที่สุ่มตรวจโรงคัดบรรจุส้มโอในจังหวัดพิจิตรจำนวน 3 โรง พบข้อสังเกตในโรงคัดบรรจุผลไม้ส่งออกจำนวน 1 โรง ที่ ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร มีผลผลิตส้มโอเตรียมส่งออกจำนวน 22.15 ตัน ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นส้มโอที่เป็นผลผลิตมาจากแปลงGAP จำนวน 1.30 ตัน ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 20.85 ตัน เป็นผลผลิตที่นำมาสวมสิทธิ์แปลง GAP จึงสั่งระงับการส่งออกไม่อนุญาตให้นำส้มโอที่สวมสิทธิ์ใบรับรอง GAP จำนวนดังกล่าวส่งออกไปจีน



จากการตรวจสอบพบว่าตามฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร มีพื้นที่ปลูกส้มโอที่ให้ผลผลิตแล้ว จำนวน 14,705 ไร่และมีผลผลิตทั้งหมด 18,510 ตัน และจากฐานข้อมูลการรับรองแหล่งผลิต GAP พืช ของกรมวิชาการเกษตร มีพื้นที่ที่ผ่านการรับรองแหล่งผลิต GAP ส้มโอ จำนวน 484 ราย 713 แปลง 6,359 ไร่ และคาดการณ์ปริมาณผลผลิต 2,986 ตัน มีโรงคัดบรรจุส้มโอที่ขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืชกับกรมวิชาการเกษตรทั้งหมด 11 โรง มีปริมาณผลผลิตที่ได้ตรวจสอบข้อมูลเลขทะเบียนสวน GAP เพื่อการส่งออก ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ถึงปัจจุบัน จำนวน 3,649 ตัน ซึ่งปริมาณการส่งออกสูงที่สุดในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม 2565 ปริมาณ  2,655 ตัน

"เพื่อให้การส่งออกส้มโอไทยไปประเทศจีนเป็นส้มโอที่ได้มาตรฐาน GAP ตามที่ประเทศคู่ค้ากำหนด จึงได้กำชับให้ สวพ. 2 แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบผลผลิตที่จะทำการส่งออกโดยตรวจสอบปริมาณการส่งออกว่ามีความสัมพันธ์กับการรับรองแหล่งผลิต GAP พืชหรือไม่ เนื่องจากส้มโอจัดเป็นสิ่งต้องห้ามตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  และตามพระราชบัญญัติกักพืชพ.ศ.2507ซึ่งการนำเข้าหรือนำผ่านต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชก่อนจึงจะสามารถนำเข้าหรือนำผ่านมาในราชอาณาจักรได้  เพื่อรักษาภาพลักษณ์คุณภาพสินค้าผลไม้ของไทยตามข้อสั่งการของนางสาวมนัญญา  ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าว





ความคิดเห็น